วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

กำไรหายไปไหน ?


เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนผมเปิดออเดอร์ sell G/J ไว้, ตั้ง TP ไว้แล้วก็นอน, พอตื่นเช้าขึ้นมาก็เปิดดูออเดอร์ผ่าน iPhone บนเตียง, พบว่าออเดอร์ชน TP ไปเรียบร้อย (ใน iPhone จะโชว์เฉพาะข้อมูลสำคัญของออเดอร์ ส่วนรายละเอียดปลึกย่อยจะซ่อนไว้) ผมก็ประเมิน TP คร่าวๆว่าควรจะได้ประมาณ 288 $, โดนหักค่าคอม 9 $ ก็ควรจะเหลือประมาณ 279 $, แต่เห็นกำไรเหลือแค่ 250 นิดๆ, นั่นคือกำไรหายไป 20 $ กว่าๆ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะ, ตอนนั้นงงไปเล็กน้อย (อาการเหมือนโดน stun ไป 3 วิ ในเกม), ผมจึงเปิดดูออเดอร์ในคอม เพื่อเช็ครายละเอียด ถึงได้ก็พบว่า อ๋อ มันโดน "Swap คืนวันพุธ"ไปเต็มๆนี่เอง !

ที่นี้ก็เข้าเรื่องเลยว่า อะไรคือ Swap ? และ อะไรคือ Swap วันพุธ ?

ผมขออนุญาต simplify คำอธิบายให้เข้าใจง่ายลงนะครับ เพราะถ้าอยากได้รายละเอียดเป๊ะๆเต็มๆ คงหาจาก google ได้ไม่ยาก, ผมขอเล่าให้ฟังเป็นสรุปง่ายๆละกัน

Swap คือ ดอกเบี้ยข้ามคืนในการถือออเดอร์ข้ามคืนนั้นเอง (ซึ่งโดยมากจะคิดกันที่เวลาเที่ยงคืนของ server, ก็อาจจะประมาณ 7 โมงเช้าบ้านเรา)
โดยทฤษฏีแล้ว Swap มีทั้งบวก ทั้งลบ, เช่น ถ้าเราถือ G/J ออเดอร์ "Sell" ข้ามคืน อาจจะต้อง"เสีย" Swap, แต่ถ้าถือ G/J ออเดอร์ Buy ข้ามคืน ก็จะ"ได้" Swap, ส่วนอัตราที่ได้กับเสีย ก็แล้วแต่โบรคเขาจะกำหนดและแจ้งไว้ เลย, โดยมาก โบรคก็จะขอกิน swap หน่อย โดยถ้าเราเสีย swap โบรคก็จะเก็บเยอะ, แต่ถ้าเราได้ swap โบรคก็จะจ่ายนิดเดียว, หรือ กรณีเลวร้ายหน่อย (เช่นทองคำ XAU) บางโบรคก็ประกาศไว้เลยว่า จะเก็บ swap ทั้ง Buy และ Sell ! ส่วนคู่ไหน Buy-Sell ได้เสียเท่าไหร่ ต้องไปเช็คกับโบรคที่ตัวเองเทรดเลย เพราะแต่ละโบรคเก็บไม่เหมือนกัน

ตัวอย่างประกาศเรื่อง Swap ของโบรคชื่อดังแห่งหนึ่ง
https://www.exness.com/forex/specifications

ส่วน Swap โบรคอื่นๆ อาจจะดูได้จาก
http://www.myfxbook.com/forex-broker-swaps

โดยปกติแล้ว Swap จะโดนกันเล็กน้อยมาก น้อยจนส่วนมากเราไม่ใส่ใจกัน, แต่... ถ้าเป็นคืนวันพุธ จะโดนหนักหน่อย เพราะเขาจะยกเอา Swap ของวันเสาร์กับอาทิตย์ มาคิดรวมไว้ในคืนวันพุธ (เพราะการเคลียร์ออเดอร์เป็น T+3, จึงมาตกที่วันพุธ,อันนี้เป็นรายละเอียดที่โบรคกับวงการเทรดคุ้นเคย ถ้าเราไม่คุ้นก็ข้ามไปเลย) ฉะนั้น ถ้าเราถือออเดอร์ข้ามคืนวันพุธ ก็จะมีเรื่อง "Swap 3 เท่า" มาเกี่ยวข้อง, ถ้าโดนคู่ที่โดน swap หนักหน่อย ประกอบกับเรื่องวันพุธ ตัวเลขก็จะเยอะขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญนั่นเอง !

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

Keltner Channel Indicator

Keltner Channel เป็นอินดิเคเตอร์ที่แสดงกรอบหรือแชนแนลโดยใช้เส้น Moving Average ซึ่งใช้บอกแนวโน้มของราคา โดยผู้ใช้สามารถปรับค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมกับระบบเทรดของตนเองได้ดังนี้

• MA_Period (default = 10) — the period of the moving average (middle line)
• Mode_MA (default = MODE_SMA) — the mode of the moving average (middle line)
• Price_Type (default = PRICE_TYPICAL) — the applied price of the moving average (middle line)


เมื่อติดตั้งและเรียกใช้งาน จะได้อินดิเคเตอร์หน้าตาดังรูป
การใช้งานคล้ายกับ Bollinger bands คือ

- ถ้าราคายืนเหนือเส้นกึ่งกลาง channel ได้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีแนวโน้มที่ราคาจะวิ่งขึ้น

- เมื่อราคาวิ่งทะลุกรอบของ channel แสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะ Over กล่าวคือ ถ้าราคาทะลุกรอบด้านบน แสดงว่า overbought ให้มองหาสัญญาณกลับตัว เช่นสัญญาณจากแท่งเทียน เพื่อเปิดออเดอร์ sell ในทำนองเดียวกัน ถ้าราคาทะลุกรอบด้านล่าง แสดงว่า oversold ให้หาสัญญาณเข้า buy แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัว Keltner Channel ก็ยังมีสัญญาณหลอกอยู่บ้าง ฉะนั้นควารใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นด้วย เช่น เมื่อเราเห็นสัญญาณ over แล้ว พิจารณาแท่งเทียนว่ากลับตัวแล้ว อาจจะใช้การดู Divergence ช่วยยืนยันอีกที เพื่อจะได้มั่นใจในการเปิดออเดอร์มากที่สุด ที่สำคัญอย่าลืม Stop loss เพราะทุกอย่างเกิดได้เสมอในตลาด forex โชคดีร่ำรวยในการเทรดครับ

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

SSRC Indicator

สวัสดีจ้า วันนี้มีอินดี้มาแนะนำอีกเช่นเคยะ ตัวนี้มีชื่อว่า SSRC ใช้บอก Trend ของตลาด

ขั้นตอนการติดตั้ง:

- หลังจากดาวน์โหลดอินดิเคเตอร์ไปแล้วให้ทำการ Extract file แล้วcopy ไปวางใน path ที่ติดตั้ง MT4 ที่เราใช้เทรด เช่น เทรดโบรก EXNESS ก็ เข้าไปที่ Local Disk(C:)/Program file/Meta Trader-Exness/experts/indicators

- ทำการปิดและเปิด MT4 ใหม่อีกครั้ง จากนั้นเปิดหน้าต่าง Navigator ออกมาแล้วลากอินดิเคเตอร์ SSRC มาวางบนกราฟ ตั้งค่า SnakeRange = 21 แล้วคลิ๊ค OK
การใช้งาน

เมื่อลากมาวางบนกราฟแล้วเราจะเห็นเส้น สีเขียวตามรูปนะคะ ส่วนวงกลมสีแดงกับสีฟ้าไม่ใช่สัญญาณจากอินดี้นะคะ เขียนขึ้นเอง แค่กำหนดจุดให้สังเกต
จากรูป

- วงกลมสีฟ้าวงแรก บริเวณนั้นให้เตรียมตัวรอสัญญาณ buy อาจจะใช้อินดี้ตัวอื่นช่วยในการหาจังหวะเข้าออเดอร์ เช่น sto อยู่ในช่วง oversold แล้วก็เข้า buy 
- วงกลมสีแดงเป็นบริเวณเตรียมพร้อม sell ใช้ร่วมกันอินดี้อื่นหรือหรือเทรนไลน์ก็ได้
 ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะคะอาจจะค้นพบระบบเทรดที่เหมาะกับตัวเอง

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

การฝึกซ้ำๆ เพื่อให้เกิดทักษะ

เพราะผม (Dr.Brett) เป็นทั้งนักจิตวิทยา และเป็นเทรดเดอร์, ผมจึงเป็นทั้ง โค้ช และ ลูกศิษย์สำหรับการฝึกเทรดให้ตัวเอง, งานที่ต้องทำหลักๆเลย คือ การเอาความรู้ที่มีอยู่แล้วมาใช้จริง, รับมือเรื่องอารมณ์, ปรับรูปแบบนิสัย และ เรื่องวินัยที่ดีอื่นๆ ซึ่งเรื่องพวกนี้เอง ที่แยกระหว่าง นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ กับนักกีฬาธรรมดา
     มีงานวิจัยจำนวนมาก ที่ค้นคว้าไว้เกี่ยวกับเรื่อง จิตวิทยาของผู้ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในสาขา ศิลปะ, วิทยาศาสตร์, กีฬา และ การเมือง. Dean Keith Simonton นักจิตวิทยาจาก Univ. of California และ K. Anders Ericsson นักจิตวิทยาจาก Florida State Univ. เป็นสองท่านที่มีผลงานด้านนี้อย่างโดดเด่น, ทั้งสองได้ชี้ไว้ว่า ความสำเร็จขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นในสาขาวิชาใด ล้วนเป็นผลมาจาก ความต่อเนื่อง, ความจริงจัง และ การฝึกฝนอย่างทุ่มเท ซึ่งจะก่อให้เกิดเป็นทักษะขั้นสูงฝังลึกเข้าไปในตัวบุคคล จนกระทั้งเมื่อถึงจุดหนึ่งจะทำได้อย่าง “อัตโนมัติ” (Note ผู้แปล : สำหรับเทรดเดอร์ ผมเคยพูดถึงเทรดเดอร์ขั้นสูงสุด ที่เรียกว่า Auto Pilot ไว้ในวีดีโอเผยแพร่เกี่ยวกับ “ระดับของเทรดเดอร์และวิธีพัฒนา”* ของผม)
      มีบทความอันหนึ่ง ได้กล่าวถึง นักเบสบอลในตำนาน Sandy Koufax (ตำแหน่งคนขว้างลูก), Koufax ได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า สิ่งที่ดีกว่าการพยายาม นั่งหาว่าอะไรคือตัวแปรในการขว้างที่ดี คือ การซ้อมขว้างซ้ำๆไปเลย, การฝึกซ้ำ คือ กุญแจสำคัญสำหรับ การซ้อมกอล์ฟ หรือ ฝึกตีลูกเบสบอล, นักขว้างเบสบอล อยากขว้างให้ได้เหมือนเดิมเป๊ะ ทุกครั้งที่ต้องการ. Jane Leavy, ผู้แต่งหนังสือ ชีวประวัติ Koufax ได้เขียนไว้ว่า สี่งที่ยากที่สุดสำหรับนักกีฬาไม่ใช่ การทำให้ผลงานได้ดีหนึ่งครั้ง แค่เป็นการทำผลงานดีให้ได้ซ้ำๆ
      ย้อนกลับมาที่การเทรดของผมเอง, ผมสามารถทำซ้ำในระดับที่น่าพอใจ โดยการพัฒนา “ชุดเงื่อนไข” ที่กำหนด การเข้า ออก และ ขนาดของออเดอร์ (Note ผู้แปล : เรื่องนี้ ผมบังเอิญคิดเหมือนผู้แต่ง โดยผมมักจะอธิบายเวลาว่า “ระบบเทรด” คือ “ชุดเงื่อนไช”ในการเข้า-ออก ออเดอร์), ชุดเงื่อนไข เหล่านี้ส่วนใหญ่ มาจากการค้นคว้าของผมในเรื่อง คุณภาพของเทรน, ผมต้องการจะเข้าเมื่อ ตลาดเริ่มมีทิศทาง และ ความเป็นเทรนเริ่มมากขึ้น จากนั้นก็ออกตอนที่เทรนเริ่มหมดลง, และ มีสามารถเข้าออเดอร์เพิ่มได้อีก ถ้า เทรนระยะสั้น กับ ระยะกลางเริ่มชี้ไปทางเดียวกัน เพื่อบังคับให้ตัวเอง อยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้, ผมได้เขียน webblog ประจำวัน, ซึ่งก็คือบันทึกประจำวันออนไลน์ ที่ผมตั้งใจจะใช้ติดตาม การประเมินเทรน, สถานะของเทรน และ วางแผนการเทรดสำหรับวันต่อไป, Blog บังคับให้ผมโฟกัสอยู่กับ พื้นฐาน และ กำจัด “ตัวแปร” ที่ไม่จำเป็นออกจากการเทรดของผม, นั่นก็คือช่วยลด การคิดมากเกินควร และ การขัดแย้งกันเองภายในใจของผมระหว่างเทรด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการเข้า-ออก ออเดอร์ (Note ผู้แปล : เข้าใจว่าการเขียนช่วยอย่างที่ผู้แต่งบอกได้ เพราะเวลาเขียนบทความ เราจะต้องไม่ฟุ้มเฟ้อ พูดแตกประเด็นมั่วไปเรื่อย จำเป็นต้องโฟกัสว่า เรากำลังพูดประเด็นอะไรอยู่ จึงทำให้เราโฟกัสอยู่กับหัวข้อหลักได้) และมันเป็นเครื่องมือที่ไม่เลวเลยสำหรับการประจานตัวเอง เพราะเป็นการประกาศความผิดพลาดของผมสู่สาธารณะด้วย

*http://www.youtube.com/watch?v=7FtAarvjwnQ&feature=plcp

วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

A Lesson in Trading Psychology

  การเทรด เปรียบเสมือนการเร่งเวลา ของชีวิตคน, ภายในเวลาหลักนาที การเทรดจะรวมความท้าทายที่มนุษย์ต้องเจอตลอดชีวิต มาทดสอบ ตั้งแต่ ความจำเป็นที่ต้องตัดสินสิ่งต่างๆ, วางแผน และ การประเมินคุณค่าของสิ่งต่างๆ ภายใต้สภาวะที่มีความเสี่ยง และ ความไม่แน่นอน, ในการฝึกฝนการเทรด เราจำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับตัวเอง และ เอาชนะตัวเอง, ในชีวิตจริงเองก็มีเรื่องราวที่ ได้รางวัลเมื่อเราพัฒนาตัวเองสำเร็จ และ มีบทลงโทษเมื่อขาดการพัฒนาตนเองอยู่ตลอด
 
มีบทเรียนชีวิตมากมาย ที่เราสามารถสะท้อนออกมาจากการเทรด เช่น
 
1. ต้องมี การวาง Stop-Loss ในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น การงาน, ความสัมพันธ์, และ เรื่องส่วนบุคคล, คนที่ประสบความสำเร็จ จะรู้จักตัดเรื่องที่กำลังล้มเหลวทิ้งไป และ ทำต่อในเรื่องที่กำลังสำเร็จไปได้ด้วยดี
 
2. การใช้ความหลากหลาย เป็นเรื่องที่มักจะได้ผล ทั้งในเรื่องของชีวิต และ การเทรด, การบริหารความเสี่ยง โดยการใช้ทรัพยาการจากหลายๆแหล่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน เป็นวิธีที่ดี ไม่ว่าจะใช้กับแง่มุมใดของชีวิต
 
3. ไม่ว่าจะเป็นในชีวิต หรือในตลาด, การเปลี่ยนแปลง จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ที่เตรียมตัวล่วงหน้าอย่างดี, การไม่วางแผน เท่ากับ กำลังวางแผนสู่ความล้มเหลวนั่นเอง
 
4. การประสบความสำเร็จในการเทรดและชีวิต มาจากการรู้ข้อได้เปรียบของตัวเอง, เมื่อโอกาสมาถึง ต้องผลักดันความได้เปรียบนั้นออกมา และ ใช้ให้เต็มที่, และ เมื่อความได้เปรียบนั้นหมดไป ก็ให้นั่งรอเฉยๆต่อไป
 
5. Risk (ความเสี่ยง) และ Reward (ผลตอบแทน) นั้น มาคู่กันเสมอ, ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคน หรือ ในตลาด, การจะได้ผลตอบแทนที่ดีมา ต้องมีการบริหารความเสี่ยง อย่างพิถีพิถันก่อนเสมอ
 
6. ความสุข คือกำไรที่เราเก็บเกี่ยวจากชีวิตของเรา, กิจกรรมทุกอย่างในชีวิต ควรจะมีการทบทวนเป็นระยะๆว่า ผลตอบแทนที่ได้มาจากการลงทุนในเรื่องนั้น คุ้มค่าหรือไม่, เทียบกว่า การลงแรง ลงเวลากับเรื่องใดๆนั้น ให้ความสุขเราได้มากน้อยเพียงใด
 
7. จงอ้าแขนยอมรับการเปลี่ยนแปลง, เพราะแม้ว่า การเปลี่ยนแปลง จะ นำมาซึ่งความอันตราย แต่ก็จะมาพร้อมกับโอกาสด้วยเสมอ
 
8. ทุกแนวโน้ม และ วัฎจักร จะมีที่สิ้นสุดเสมอ, ใครที่มีการประเมินอนาคตล่วงหน้าได้ดี จะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้
 
9. ไม่ว่าจะเป็นในการเทรด หรือ ในชีวิต, การตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุด จะมาจาก อย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง เชื่อมั่นมากเกินไป หรือ ขาดซึ่งความเชื่อมั่น
 
10. สูตรสำเร็จ ทั้งในวงการเงิน และ ชีวิต คือ อย่าถือการลงทุนใดๆ ที่ถ้าให้คุณซื้อใหม่ตอนนี้ คุณไม่อยากซื้อ
 
(Note ผู้แปล : นี่เป็นบทเรียนที่ ผุ้แต่งได้ให้ข้อคิดไว้กับ Trader Feed Site, หากนำข้อคิดเหล่านี้มาทบทวนดีๆ จะเห็นได้ว่าหลักการหลายๆอย่าง เป็นเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจน แต่เราอาจจะลืมคิดไป และ เมื่อถึงเวลาก็ถูกอารมณ์ครอบงำ จนไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องอย่างที่ควรจะทำ, เหมือนกับตอนเทรดซึ่งขาดวินัยเพราะ ถูกอารมณ์ครอบงำ, ฉะนั้นในชีวิต ก็ต้องมีสติ และ วินัย ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า ไปกระทำตามสิ่งเร้าที่เข้ามายั่วยวนให้ดี)

ForexFreedomBar Indicator

มาแนะนำอินดิเคเตอร์อีกเช่นเคย ตัวนี้มีชื่อว่า ForexFreedomBar ใช้ในการบอกแนวโน้มหรือเทรนของตลาดนั่นเอง ดาวน์โหลดและติดตั้งเหมือนเดิม คือนำไปวางใน path ที่ติดตั้ง MT4 ที่เราใช้เทรด

เช่น เทรดโบรก EXNESS ก็ เข้าไปที่ Local Disk(C:)/Program file/Meta Trader-Exness/experts/indicators

- ทำการปิดและเปิด MT4 ใหม่อีกครั้ง จากนั้นเปิดหน้าต่าง Navigator ออกมาแล้วลากอินดิเคเตอร์ ตัวที่ต้องการ มาวางบนกราฟ กำหนดค่าที่ต้องการ กด OK จะได้ หน้าตาของอินดิเคเตอร์ตามรูป
 การใช้งาน รอให้บาร์เล็กๆ ทุกแถวเป็นสีเดียวกัน

Uptrend บาร์ทุกแถวเป็นสีฟ้า เปิดออเดอร์ buy

Downtrend บาร์ทุกแถวเป็นสีแดง เปิดออเดอร์ sell

หมายเหตุ อาจใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ตัวอื่นนะคะ เพราะตัว ForexFreedomBar ให้สัญญาณช้าแต่ค่อนข้างแม่นยำ

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

Various Indicators in Binary Options Trading

Nowadays, the binary options platforms have become online based and they don't rely on the conventional indicators that the foreign exchange platforms contain. However, it is quite possible to use the same set of indicators that are used in foreign exchange platforms so as to analyze the trades and use them in the binary options markets as well. Apart from these indicators, the traders can also use custom made indicators specifically for assessing the MT4 charts and obtaining signals to use the same for binary options market. In binary options there are some default indicators including RSI, Stoch oscillator as well as MACD indicator that are usually found in MT4 platform. These indicators have got many uses and they function in differ ways. If you are adapting these indicators for the assessment of assets then it is very important to consider the type of the trade the trader is indulging in. Following are some of the most common indicators along with the various types of trades for which they can be used.
a) Bollinger bands: These are commonly used indicators that work over a wide range of binary options when they are combined along with an overbought or oversold indicator.
b) Stochastics oscillator: These indicators can be used when an overbought or oversold indicator combines with Bollinger band for a wide range of options. Ideally used when the assets involved in range bound.
c) RSI: RSI or Relative Strength Index reveals the strength of a particular trend and thus is ideally for trading the Touch or No-Touch trade.
d) Parabolic SAR- If you want to detect the reversals in market then this is an ideal indicator for you. This indicator helps to pick up signals quite late and thus you must combine it with other indicators including reversal candlesticks or ADX.
e) Pivot calculator Even though it is just a custom indicator, its widely used with various other default indicators to detect signals for the range of options including, Touch/No Touch options & Call or Put options.
f) MACD: This is a great indicator to detect the divergence in the price. To make this indicator more effective you must use it along with Call or Put options along with the long expiry time.
These are some of the most common binary options indicators that are used. It is up to the investor to assess the use of these indicators and try them out so as to obtain the best mix.
Binary options trading is very easily to learn. However, you need to ensure the best use of indicators to make your trading successful.
Article Source: http://EzineArticles.com/?expert=Ash_Rock_Khan

Article Source: http://EzineArticles.com/7525788